พระบรมศาสดาทรงปรารภผลแห่งอุโบสถกรรมครึ่งวัน จึงทรงนําเรื่องในอดีตมาตรัสเล่าว่า
ในอดีตกาล พระราชาองค์หนึ่งเป็นผู้มีศรัทธาไม่ประมาทในการรักษาอุโบสถศีล ท่านตรัสสั่งให้อํามาตย์ รักษาอุโบสถเช่นกัน
ปุโรหิตของพระองค์คนหนึ่งมีปกติกินสินบน วินิจฉัยอรรถคดีโดยอยุติธรรม
คราวหนึ่ง ปุโรหิตเข้าเฝ้าพระราชา พระองค์ตรัสถามถึงการรักษาอุโบสถศีล ปุโรหิตนั้นทูลคําเท็จว่า " สมาทานแล้ว " ภายหลังจึงกลับเรือนสมาทานอุโบสถครึ่งวัน รักษาอุโบสถในเวลากลางคืน
อยู่มาวันหนึ่ง มีอุบาสิกาผู้รักษาอุโบสถมายื่นฟ้องคดี เมื่อไม่ได้โอกาสจะกลับบ้านก็ไม่ละเลยที่จะรักษา อุโบสถ ปุโรหิตนั้นได้มะม่วงสุกมาจึงส่งให้หญิงนั้นกินก่อนรักษาอุโบสถ นี้เป็นกุศลของปุโรหิต
ต่อมา ปุโรหิตตายไปเกิดในวิมานทอง เสวยสิริสมบัติในเวลาค่ำ พออรุณขึ้นก็กลับกลายเป็นเปรตมีไฟ ติดทั่วร่างกาย มีเล็บโตเท่าจอบ กรีดจิกควักเนื้อข้างหลังของตนกิน เมื่ออาทิตย์อัสดงคตแล้วร่างนั้นก็หายไป ร่าง อันเป็นทิพย์ก็เกิดขึ้นแทน
ผลแห่งการรักษาอุโบสถครึ่งวันทําให้ได้ทิพยสมบัติ แต่ผลแห่งการกินสินบน ตัดสินคดีความโดยอยุติธรรม จึงต้องควักจิกเนื้อหลังของตนกิน
ที่มา: หนังสือดรรชนีธรรมฉบับมงคลสูตร อ้างอิง: ขุ.ชา. ติงสตินิบาต มก. ๖๑/๓๐๑