กิ้งก่าจอมหยิ่ง (กกณฺฎกชาตกํ)
[๑๘๙] นายํ ปุเร อุนฺนมติ... เกน ถทฺโธ กกณฺฏโกฯ
[๑๙๐] อลทฺธปุพฺพํ ลทฺธาน อฑฺฒมาสํ กกณฺฏโก
อติมญฺญติ ราชานํ เวเทหํ มิถิลคฺคหนฺติ ฯ
ความนำ
พระพุทธเจ้าทรงอาศัยพระนครสาวัตถี ประทับอยู่ ณ วัดพระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภพระปัญญาบารมีของพระองค์ในอดีตชาติ ได้ตรัสพระธรรมเทศนาคือคาถาที่ปรากฏ ณ เบื้องต้น
ปัจจุบันชาติ
มีเรื่องย่อเล่าว่า วันหนึ่ง พวกภิกษุได้นั่งคุยกันในโรงธรรมสภา เมื่อจะสรรเสริญ พระปัญญาบารมีของพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้สรรเสริญพระคุณดังนี้ว่า
“ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย พระตถาคตเจ้านั้น ช่างเป็นผู้ที่ทรงมีพระปัญญาที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน พระองค์สามารถที่จะปราบวาทะของผู้อื่นได้ ทำคนเหล่านั้นให้สิ้นพยศและได้ประทานบรรพชาให้ตั้งอยู่ในมรรคผล ทั้งนี้ก็เพราะพระองค์ทรงมีพระปัญญาที่ลึกซึ้งนั้นเอง”
ในขณะนั้น พระพุทธเจ้าเสด็จผ่านมาถึง เมื่อทรงทราบเรื่องจึงตรัสว่า
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้นนะ ที่ตถาคตมีปัญญา แม้ในอดีตกาลเมื่อญาณยังไม่แก่กล้า ขณะที่กำลังบำเพ็ญบุรพจริยาเพื่อพระโพธิญาณอยู่ เราก็เป็นผู้มีปัญญามาแล้วเหมือนกัน”
ครั้นตรัสเสร็จแล้วพระพุทธองค์ทรงประทับนิ่งอยู่ เหล่าภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลวิงวอนให้ทรงประกาศเรื่องราวแต่หนหลัง จึงทรงนำอดีตนิทานมาแสดงต่อไปนี้
อดีตชาติเนื้อหาชาดก
ในอดีตกาล มีพระราชาพระนามว่าวิเทหะ เสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงมิถิลา ในแคว้นวิเทหะ พระเทวีของพระองค์มีพระนามว่าอุทุมพรเทวี ต่อมา พระองค์ได้มโหสถมารับราชการ เขาเป็นอำมาตย์ที่ทรงโปรดปรานมาก
วันหนึ่ง เมื่อพระเจ้าวิเทหราชเสด็จไปพระราชอุทยานกับมโหสถบัณฑิต ในขณะนั้น มีกิ่งก่าตัวหนึ่งอยู่บนปลายเสาค่าย มันเห็นพระราชาเสด็จมาก็ลงจากเสาค่ายมาหมอบที่แผ่นดินแล้วทำการผงกหัวอยู่ไปมา
พระราชาทอดพระเนตรเห็นกิริยาของมันแล้วจึงตรัสถามว่า “แน่ะบัณฑิต กิ้งก่ากำลังทำอะไรของมัน”
มโหสถจึงกราบทูลว่า
“กิ้งก่ากำลังถวายตัวแด่พระองค์อยู่ พระเจ้าข้า”
พระราชาทรงพอพระทัยจึงมีรับสั่งว่า
“เมื่อมันถวายตัว ก็จงให้ทรัพย์แก่มันเถิด”